ถ้าใครตาม IG : IAMSNKRS อยู่ Air Jordan 11 Gratitude เป็นสนีกเกอร์อีกคู่ที่ผมใส่ไปเที่ยวไทเป-ไต้หวันมา และเชื่อว่าหลายคนเซอร์ไพรซ์! ฮ่าๆ เพราะผมไม่เคยแสดงทีท่าว่าจะใส่ Air Jordan 11 มาก่อนเลย (ซึ่งก็จริงฮะ :P) แต่อยากจะบอกว่า จุดเริ่มต้นการชอบ Sneakers ของผม มันเริ่มมาจากรองเท้าบาสนี่แหละ และหนึ่งในนั้นคือ AJ11 นี่แหละครับ!
เพราะงั้นผมเลยดูตื่นเต้นมากตอนได้ Air Jordan 11 Gratitude มา ถึงแม้คู่นี้มันจะไม่ใช่สี OG อะไร High Resell อะไร แต่พอได้ใส่แล้วเหมือนความฝันวัยเด็กเป็นจริง! รู้สึกเท่สุดๆ ไปเลยครับ! ฮ่าๆ
รีวิว Air Jordan 11 Gratitude คู่นี้ผมอาจจะไม่ได้มีเรื่องประวัติหรืออะไรมากมายฮะ แต่เป็นรีวิวจากใจคนที่อยากใส่ AJ11 มานานแล้วเพิ่งเก็บเงินซื้อได้ โดยไม่มี Sponsor ครับ!
AJ11 Gratitude คู่นี้ “พื้นเหลืองตั้งแต่แรก” ไม่ใช่เพราะเก่าครับ!
คิดว่าเพื่อนๆ คงเห็นภาพโฆษณา AJ11 Gratitude ในเว็บ Nike แล้ว และอาจสงสัยว่า ทำไมสีพื้นมันดูเหลืองๆ จอเพี้ยนหรือเปล่า? ไม่ใช่เลยฮะ เป็นความจงใจของ Nike เอง ที่ใช้สีเหลืองอ่อนๆ กับพื้น AJ11 คู่นี้
แน่นอนว่าถ้าใครที่ไม่รู้ถึงความจงใจของ Nike อันนี้ อาจเข้าใจคิดว่าผมเอาไปใส่เยอะ/ใส่จนเหลือง แต่จริงๆแล้ว มันเหลืองตั้งแต่แรกแล้วครับ! ไม่ใช้ผม ฮ่าๆ
ซึ่งในบรรดา AJ11 รุ่นก่อนๆ เช่น Air Jordan 11 Concord เค้าจะใช้สีใส หรือไม่ก็ใช้สีแดงไปเลยอย่าง Air Jordan 11 Bred และจะเริ่มเหลืองก็ต่อเมื่อมันเก่า ใส่บ่อย หรือใกล้พังเท่านั้น
แต่สำหรับ Air Jordan 11 Gratitude คู่นี้ ฉีกกฎทุกซีรีย์ที่ผ่านมา แม้จะเป็นการเอากลับมาทำใหม่ในปี 2023 ก็ตาม โดยการทำให้พื้นมันเหลืองตั้งแต่แรกเสียเลย! เพราะงั้นหลังจากนี้ไปก็ไม่ต้องกังวลเรื่องพื้นเหลืองอีกแล้ว ฮ่าๆ
สำหรับใครที่ซีเรียสเรื่องพื้นเหลือง AJ11 Gratitude อาจไม่เหมาะกับคุณฮะ / แต่สำหรับผมที่อยากได้ AJ11 มานาน และเป็นทรง Mid แบบที่ผมอยากได้ ผมก็ไปได้จากเว็บ Nike ก่อนช่วงปลายปี ทันใส่ไปเที่ยวไต้หวันนั่นเองครับ
“หนัก – แต่โคตรเท่” คือความรู้สึกจากคนเพิ่งใส่ AJ11 ครั้งแรกอย่างผม
จากที่ผมเอา AJ11 Gratitude ไปใส่ที่ไต้หวัน-ไทเป สิ่งแรกที่ผมรู้สึกคือ ตัวรองเท้ามัน “หนัก” จริงๆ ฮะ ซึ่งข้อนี้มีคนเตือนผมแล้วแหละว่า AJ11 มันหนัก แต่อย่างที่บอกฮะว่าสานฝันวัยเด็ก-อยากได้มาก ยอมหนักเพราะอยากเท่ฮะ ฮ่าๆ
อาจด้วย Nike เค้าพยายามให้มันเหมือนกับรุ่น OG มากที่สุด เลยไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไรให้ทันสมัยมากนักเหมือนแบรนด์อื่น ผมเลยคิดว่าความหนักมันคงเป็นปกติของรุ่นนี้อยู่ฮะ
แต่บอกเลยว่า AJ11 Gratitude ตอน OOTD สำหรับผม “มันเท่มากครับ!” อยากแต่งตัวแบบนี้มานานแล้ว แต่อากาศในไทยมันไม่เอื้ออำนวย อย่างเช่นการใส่เสื้อซ้อน 2 Layer ข้างในเป็นเสื้อฮู้ด ข้างนอกเป็นเสื้อคลุม กางเกงขาจั้มป์โชว์รองเท้า ให้ลุคสปอร์ต ผมรู้สึกว่ามันเท่สุดๆ! / และมันก็คือภาพนี้นี่แหละฮะ
สิ่งที่แอบกังวลคือ “หนังแก้วยับ” เวลาเดิน
AJ11 แทบจะทุกตัวมีวัสประเภทหนังแก้วครับ ตั้งแต่ส่วนด้านหน้าลากยาวไปจนถึงด้านหลัง เหมือนเป็นกรอบครอบรองเท้าอีกทีนึง
สิ่งที่ผมกังวลคือ รอยยับในส่วนที่มันพับเวลาใส่เดินฮะ (ไม่แน่ใจเพื่อนๆ เป็นเหมือนผมไหมนะ) แต่สำหรับวัสดุประเภทหนังแก้วของ AJ11 นี่มันเห็นชัดประมาณนึงเลยครับ
ซึ่งอันนี้แก้ยากแล้วล่ะ เพราะมันเป็นที่ลักษณะการเดินของผมเอง เลยได้แต่ทำใจถ้าวันนึงมันจะเห็นเป็นรอยชัดขึ้นมาครับ
หรือถ้าเพื่อนๆ มีวิธีรักษาหรือดูแลรอยยับของหนังแก้วแบบนี้ วานบอกบุญผมทีนะครับบ
แล้ว Air Jordan 11 Gratitude มันต่างจาก AJ11 คู่อื่นๆ ยังไงอีก
ถ้าถามผม Air Jordan 11 Gratitude อาจไม่ได้แตกต่างกับ AJ11 รุ่นก่อนสักเท่าไร เพราะสุดท้าย AJ11 เค้าชูเรื่อง “ความคลาสสิค” ตามแนวทางดั้งเดิม แต่ก็มีอยู่ 2 อย่างที่ต่างออกไปในรุ่นนี้ คือ
- พื้นรองเท้าชั้นนอกโปร่งแสงแต้มสีอ่อนๆ สีที่ดูภายนอกแล้วเหมือนเหลืองนั่นแหละครับ ฮ่าๆ
- Jumpman สีทอง สื่อถึงความเป็นแชมป์ของรองเท้าคู่นี้
AJ11 Gratitude คู่นี้เป็นรุ่นของปี 2023 ซึ่งทาง Nike เค้าบอกว่ารุ่นนี้เป็น “คำขอบคุณ” ถึงทุกคนที่ยังชอบ Jordan อยู่นั่นเองครับ
สิ่งที่น่าแปลกใจคือ Air Jordan 11 Gratitude ในไทย “ยังเหลือครับ”
จากที่ผมไปเดินไต้หวันมา อยากบอกว่าหา AJ11 Gratitude ตาม Nike Official Shop ไม่มีเลยครับ (ผมเดินอยู่ย่าน Ximending) แต่กลับเห็นวางอยู่ในร้าน Resell แทน ฮ่าๆ
ผิดกับที่ไทยมากครับที่ AJ11 คู่นี้ยังเหลือค้างตามช็อปต่างๆ หาซื้อได้ตามปกติ แม้แต่เว็บ Nike ประเทศไทยก็ยังมีไซต์เหลือ
แต่อีกนัยนึงก็เข้าใจได้ฮะ อาจเพราะในไทยไม่ได้อินกับ AJ11 มากนัก และในไทย AJ11 อาจเป็นรองเท้าที่เฉพาะกลุ่มมากๆ อยู่เหมือนกัน เลยทำให้กระแส AJ11 ในไทยจุดไม่ติดสักเท่าไร (ซึ่งต่างจากในต่างประเทศ)
ยังไงก็แล้วแต่ ก็เป็นเรื่องดีที่ผมได้มีโอกาสใส่ AJ11 ราคาป้าย
ในไทยอาจจะกระแสไม่ค่อยมี แต่ผมถือว่ามันเป็นเรื่องดีสำหรับผมแล้วกันฮะ! ฮ่าๆ อย่างน้อยผมก็ได้มีโอกาสใส่ Air Jordan 11 ราคาป้ายกับเค้าสักที ถึง AJ11 คู่นี้จะไม่ใช่ตัวแรง ตัว OG อะไร แต่มันก็มีคุณค่าทางใจสำหรับผมฮะ! Air Jordan 11 Gratitude
ในตอนที่ผมเขียนรีวิวนี้ Air Jordan 11 Gratitude ก็ยังมีขายอยู่ตามเว็บและตามช็อปต่างๆ เช่น Nike, Footlocker ฯลฯ ถ้าใครอยากลอง สามารถไปหาลองได้เลยครับ! ด้านล่างคือลิงก์ในเว็บ Nike ประเทศไทย
คำแนะนำเรื่องไซต์ : ธรรมชาติของ AJ11 เป็นรองเท้าที่ไม่ได้ใส่สบายขนาดนั้นฮะ เพราะงั้นอยากแนะนำให้บวกเพิ่ม 0.5 – 1 ไซต์นะครับ จะได้ใส่สบายขึ้น
ถ้าใครได้มาลองแล้ว ใส่ถ่ายมาอวดกันบ้างนะครับ! 😛